นายพรชัย ปัทมินทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคาร
ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารมีความพร้อมเต็มสูบในการรุกธุรกิจขนาดใหญ่
หลังปรับโครงสร้างสายงานธุรกิจขนาดใหญ่ (Wholesale
Banking Group) เสร็จสมบูรณ์ โดยผสานพลังสายงานบรรษัทธุรกิจและวาณิชธนกิจเข้าไว้ด้วยกัน
เพื่อให้บริการลูกค้าได้ครบทุกความต้องการ ใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น เข้าถึงมากขึ้น
และบริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ จะรุกธุรกิจด้วยการปักธงเรื่องอาเซียน
ซึ่งเป็นจุดแข็งของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆในตลาด
โดยธนาคารได้ตั้งโต๊ะอาเซียนขึ้นมาโดยเฉพาะ
เพื่อให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาแก่บริษัทไทยที่ต้องการแสวงหาโอกาสใหม่ๆในตลาดอาเซียนที่กำลังจะขยายใหญ่ขึ้นทันทีเมื่อ
AEC มาถึง
สำหรับโครงสร้างใหม่ของสายงาน Wholesale
Banking ประกอบด้วย 5 ทีมหลัก ได้แก่ 1.สายบรรษัทธุรกิจ (Corporate
Banking Group) 2.สายวาณิชธนกิจ (Investment Banking Group) 3.ด้านธุรกิจสถาบันการเงิน (Financial Institution Thailand
Division) 4.ด้านวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยง (Credit and
Operational Risk Analytics Division) 5.ด้านกลยุทธ์และสนับสนุนธุรกิจ
(Strategy and Support Division) โดยทีมหลักๆเหล่านี้จะทำงานคู่ขนานไปกับโต๊ะอาเซียน
โดยแบ่งเป็น ทีมอาเซียน 1 และ ทีมอาเซียน 2 โดย 2
ทีมนี้จะแบ่งกันทำหน้าที่ตามรายอุตสาหกรรมหลักของลูกค้า
"เมื่อเราได้ปรับภายในจนสร้างสายงาน Wholesale Banking เป็นที่เรียบร้อย
เราพบว่าคนของเราทำงานประสานกันโดยทุกคนรู้ขอบข่ายงานและหน้าที่ของตัวเองชัดเจน
พร้อมแล้วที่จะเดินหน้า ซึ่งผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดคือ ลูกค้า
เพราะแบงก์จะให้บริการลูกค้าได้ง่ายขึ้น ใกล้ชิดขึ้น ตรงประเด็นมากขึ้น
ทำงานสอดผสานกันดีขึ้นกับผลิตภัณฑ์ทุกประเภทในแบงก์
ควบคู่ไปกับเจ้าหน้าผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแต่ละรายอุตสาหกรรม ยิ่งไปกว่านั้น
จุดแข็งที่แตกต่างจากตลาด คือ ASEAN Platform การมีผู้เชี่ยวชาญในแบงก์
มีคนในกรุ๊ป และมีเครือข่ายทั่วภูมิภาค เราอยากทำงานภายในแนวคิดหลัก 'I see
the Difference' เพราะถ้ายังทำงานเหมือนผู้เล่นทุกคนในวงการ
เราต้องสู้กันด้วยราคา เราจึงขอแข่งด้วยบริการเรื่องอาเซียนที่ดีที่สุด
มองเห็นโอกาสที่แตกต่าง และลงไปทำในสิ่งที่แตกต่างจริงๆ"
นายพรชัย กล่าวว่า
ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนออกมาค่อนข้างดี
สายงาน Wholesale Banking สามารถทำรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโต
18% รายได้ค่าธรรมเนียม เติบโต 48%
และสามารถสร้างรายได้ที่เกิดจากธุรกรรมเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนเติบโต 55%
ขณะที่เป้าหมายหลักของปี 2557 คือ การตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 69%
จากปี 2556 โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเติบโต 17% หรือ 1 หมื่นล้านบาทจากปี 2556
ด้านเงินฝากตั้งเป้าจะระดมเงินฝากเข้ามาใหม่เติบโต 21% จากฐานลูกค้าใหม่ 30
บริษัทในปีนี้
"แบงก์เห็นโอกาสอีกมากรออยู่ในตลาดอาเซียน
ประตูเปิดรอไว้อยู่แล้วไม่ว่าคุณจะพร้อมหรือไม่
เดิมบริษัทในไทยเคยพึ่งพารายได้จากในประเทศทั้ง 100% หากปัจจัยภายในไม่เอื้ออำนวย
รายได้ก็ลดลงไปด้วย
แบงก์จึงอยากช่วยลูกค้าหาตะกร้าใบใหม่มากระจายความเสี่ยงด้านรายได้
อนาคตหากยอดขายในประเทศหายไปสักครึ่งหนึ่ง
คุณอาจได้รายได้ใหม่จากตลาดนอกประเทศชดเชยกลับมามากกว่าบาทก็ได้ เพราะปลายปี 2558
เมื่อ AEC เกิดขึ้น กำแพงและอุปสรรคต่างๆถูกทำลายลง
บ่อปลาจะขยายกลายเป็นมหาสมุทรทันที" นายพรชัย กล่าว
ที่มา : http://www.cimbthai.com/CIMB/news/press_release/4741/
ที่มา : http://www.cimbthai.com/CIMB/news/press_release/4741/