ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2557 จำนวน 440.7 ล้านบาท เติบโต40.8%จากงวดเดียวกันปีก่อน
สาเหตุุจากรายได้เพิ่มขึ้น 36.7% จากธุรกรรมปริวรรตเงินตราต่างประเทศและรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเป็นหลัก
นายสุภัค
ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร
สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 มีกำไรสุทธิจำนวน 440.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.7 ล้านบาท หรือ 40.8%
เมื่อเปรียบเทียบผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกันปี 2556 สาเหตุหลักเกิดจากรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 106.0% รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 27.1%
และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 23.1% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 21.4% และสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 120.2% เป็นผลสะท้อนจากการตั้งสำรองอย่างระมัดระวังมากขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจที่อาจเปลี่ยนแปลงในเชิงลบ
โดยธนาคารได้เพิ่มการตั้งสำรองส่วนเกินจากเกณฑ์มาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย
จำนวน 2.6 พันล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานงวดสามเดือนปี
2557 และ 2556
รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปี 2556 จำนวน 724.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.7 เป็นจำนวน 2,698.2 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 395.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.1
ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการไถ่ถอนตราสารหนี้ด้อยสิทธิก่อนกำหนด
และผลสะท้อนจากการขยายสินเชื่อ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 60.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.1
ส่วนใหญ่มาจากค่าธรรมเนียมบริการที่ปรึกษา และค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
และรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 269.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 106.0 ส่วนใหญ่เกิดจากธุรกรรมการบริหารเงิน
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนปี
2557 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2556 เพิ่มขึ้นจำนวน 295.9 ล้านบาทหรือ 21.4%
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ
ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องของธนาคาร
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานงวดสามเดือนปี 2557 อยู่ที่ 62.2% ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2556 อยู่ที่ 70.0%
เป็นผลจากการปรับปรุงแผนการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีผนวกกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดทั้งด้านเงินฝากและเงินให้สินเชื่อ
กลุ่มธนาคารซีไอเอ็มบี
ไทยสามารถดำรงอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest
Margin – NIM) สำหรับงวดสามเดือนปี 2557 อยู่ที่ 3.27% เพิ่มขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับปี 2556 อยู่ที่ 3.18% โดยธนาคารสามารถควบคุมต้นทุนเงินฝากที่ดีขึ้น
วันที่ 31 มีนาคม 2557
เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชีของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 1.72 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ
วันที่ 31 ธันวาคม 2556 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก
ตั๋วแลกเงินและหุ้นกู้จำนวน 1.86 แสนล้านบาท ลดลง 0.4% จากสิ้นปี 2556 จำนวน 1.87 แสนล้านบาท
ทำให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินและหุ้นกู้ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 92.4% จาก 91.6% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท
อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ 3.1% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 อยู่ที่ 2.5%
มีสาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวกระทบลูกค้าภาคธุรกิจบางรายและต่อเนื่องสู่รายย่อย
โดยที่ผลกระทบนี้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้และไม่น่าจะกระทบในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ
และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น
ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแล
และการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557 อยู่ที่ 100.6% ลดลงจากสิ้นปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 107.8% ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557 เงินสำรองของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 5.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 2.6 พันล้านบาท
เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ
สิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2557 มีจำนวน 2.63 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 13.4% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ 10.1%
กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย
http://jo.klongjan.com/go.php?to=http://www.ryt9.com/s/prg/1879693
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น